“โปรโอ๊ต” ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต นักกอล์ฟวัย 27 ปี จากขอนแก่น คว้าแชมป์ เบทาโกร ออลไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ ไปครองได้สำเร็จ หลังจากรอบสุดท้ายทำสกอร์เพิ่มได้อีก 6 อันเดอร์พาร์ 64 สกอร์รวมสี่วัน 23 อันเดอร์พาร์ 257 รับเงินรางวัล 4.5 แสนบาท ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ ที่สนามแหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล คันทรีคลับ พาร์ 70 จ.ชลบุรี เมื่อ 2 ก.ค.60 ที่ผ่านมา
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพนานาชาติ ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2017 รายการที่ 6 รายการ “เบทาโกร ออลไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” โคแซงชั่นกับ เอเชียน ดีเวลล็อปเมนต์ ทัวร์ (เอดีที) สนับสนุนโดย บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) นักกอล์ฟชายแข่งขันสี่วัน 29 มิ.ย. – 2 ก.ค. 60 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท และนักกอล์ฟหญิง แข่งขันสามวัน 29 มิ.ย. – 1 ก.ค. 60 ชิงเงินรางวัลรวม 2 แสนบาท ที่สนามแหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี พาร์ 70
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ค. 60 ชิงชัยในรอบสุดท้าย “โปรโอ๊ต” ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต วัย 27 ปี จากขอนแก่น คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ หลังจากรอบสุดท้ายทำสกอร์เพิ่มได้อีก 6 อันเดอร์พาร์ 64 จาก 6 เบอร์ดี้ที่หลุม 2,3,4,16,17,18 ไม่เสียโบกี้เลย ทำสกอร์รวม 23 อันเดอร์พาร์ 257 ได้รับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท โดยชนะห่างที่สอง “โปรอาร์ต” สุรดิษ ยงค์เจริญชัย จากนครปฐม ถึง 3 สโตรก โดย สุรดิษ รอบนี้ทำเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 260 ได้รับเงินรางวัล 277,500 บาท และที่สามร่วมมีสองคน ได้แก่ แดนไท บุญมา กับ ภาณุพล พิทยารัฐ ที่ทำสกอร์เท่ากัน 19 อันเดอร์พาร์ 261 ได้รับเงินรางวัลคนละ 155,250 บาท
ถิรวัฒน์ ที่คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพรายการที่สองในชีวิต หลังจากได้แชมป์แรก ที่แมตซ์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ สนามเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อพ.ค.59 กล่าวว่า “วันนี้ตื่นเต้นนิดนึงครับ แต่ออกไปเล่นดี ทำได้ 3 เบอร์ดี้ ที่หลุม 2,3,4 แล้วก็ได้พัตต์เบอร์ดี้ตลอดก็เลยรู้สึกว่ารอทำสกอร์ขึ้นอย่างเดียว แต่ก็มากดดันช่วงหลังๆครับ ที่น้องไล่ขึ้นมา แต่เราก็ไม่เร่งเกมส์ตัวเองก็ตีตามแผนตัวเองเหมือนเดิม แต่ก็อยู่ที่ว่าใครพัตต์ลงและผมมาพัตต์ดี 3 หลุมสุดท้าย มามั่นใจตอนจบหลุม 17 ที่นำ 2 สโตรกว่าเราน่าจะได้แชมป์แน่นอน แชมป์ครั้งนี้เป็นแชมป์ออลไทยแลนด์ครั้งแรกและเอดีทีด้วย ต้องขอบคุณสปอนเซอร์ สิงห์ ขอบคุณโปรบุญชู ที่ได้ให้โอกาสเข้ามาอยู่ในค่ายสิงห์พัฒนา ทำให้มีโอกาสพัฒนาตัวเองขึ้นมาตรงนี้ ขอบคุณครอบครัวที่ให้การสนับสนุนตลอด ขอบคุณเบทาโกรที่จัดรายการดีๆแบบนี้ขึ้นมา สำหรับแชมป์ครั้งนี้ทำให้มั่นใจขึ้นเยอะ ผมตีชอร์ตดีมาประมาณปีนึงละครับ ก็เฉียดๆมาหลายครั้ง เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆครับ พอมาถึงอาทิตย์ก็ทำได้สำเร็จ ก็ดีใจที่ชาวขอนแก่นคว้าแชมป์ได้ทั้งชายและหญิง ตอนนี้ผมโฟกัสที่เอเชียนทัวร์เป็นหลัก เพราะว่าคิวสคูลผ่านและเมื่อต้นปีทำเงินพอใช้ได้ ก็อยากติดท็อป 60 ให้ได้ก่อน ถ้าทำได้ปีหน้าค่อยมองไปถึงแชมป์ครับ”
สำหรับผลงานนักกอล์ฟที่น่าสนใจ จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์ และ อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ ทำสกอร์ 18 อันเดอร์พาร์ 262 ได้ที่ 5 ร่วม, ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ เนติพงศ์ ศรีทอง, ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ และ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ทำสกอร์ 14 อันเดอร์พาร์ 266 ได้ที่ 7 ร่วม, อุดร ดวงเดชา ทำสกอร์ 12 อันเดอร์พาร์ 268 ได้ที่ 14 ร่วม, ชัพชัย นิราช ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 276 ได้ที่ 38 ร่วม, เชาวลิต ผลาผล ทำสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 277 ได้ที่ 41 ร่วม ส่วนนักกอล์ฟสมัครเล่นดีเด่นได้แก่ “เซฟ” สาริศ สุวรรณรัตน์ วัย 19 ปี จากกรุงเทพฯ ที่ทำสกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 283 ได้รับถ้วยรางวัล “ศุภพร มาพึ่งพงศ์” ไปครอง
นอกจากนี้ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) มีกิจกรรมการกุศล “เบทาโกร กิฟ แต๊งค์ อีเกิ้ล แชริตี้” มอบเงินบริจาคเข้าโครงการการกุศล “รวมใจ สานฝัน” โดยจะบริจาคเงิน 1 หมื่นบาท ต่อ 1 อีเกิ้ลที่นักกอล์ฟที่เข้าแข่งขันทำได้ในตลอด 4 วันของการแข่งขัน โดยในรอบสุดท้ายมีนักกอล์ฟทำเพิ่มได้อีก 3 อีเกิ้ล รวมกับสามรอบแรกเป็น 34 อีเกิ้ล รวมยอดเงินบริจาคทั้งสิ้น 340,000 บาท
ส่วนรางวัล ออโต้ซคิน ลองเกส ไดร์ฟ ที่มอบผลิตภัณฑ์และบริการจากออโต้ซคินมูลค่า 150,000 บาท ให้นักกอล์ฟที่ตีไกลที่สุดในหลุม 11 สนับสนุนโดย บริษัท ออโต้ซคิน จำกัด ซึ่งผู้ที่คว้ารางวัลได้แก่ เขตตะวัน ปูคะวนัช ที่ทำได้ในการแข่งขันรอบ 3 ด้วยระยะ 329 หลา